MOVIE REVIEW: WHEN MARNIE WAS THERE (2014) MY DREAM IS TO HAVE YOU. NO ONE'S LIFE IS PERFECT.

Movie Review: When Marnie Was There (2014) My dream is to have you. No one's life is perfect.

Movie Review: When Marnie Was There (2014) My dream is to have you. No one's life is perfect.

Blog Article

รีวิวหนัง  When Marnie Was There (2014) ฝันของฉันต้องมีเธอ  ไม่มีใครหรอกที่ชีวิตจะสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง


ประเภทของภาพยนตร์: ดราม่า


วันที่เข้าฉาย: 16 เมษายน 2558


ผู้กำกับ: Hiromasa Yonebayashi


นักแสดงนำ: Sara Takatsuki, Kasumi Arimura, Nanako Matsushima, Susumu Terajima, Toshie Negishi


ความยาว : 103 นาที


Movie-Review-When-Marnie-Was-There-2014-My-dream-is-to-have-you.-No-ones-life-is-perfect.


เรื่องย่อ:


ดูหนัง 2024 เรื่องราวของเด็กสาวอายุ 12 ปีในซัปโปะโระ ที่ชื่อ อันนะ ซาซากิ เธอสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้เธอกลายเป็นเด็กกำพร้าและไปอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็ก สตรีนามโยริโกะและสามีได้รับเลี้ยงเธอในฐานะลูกบุญธรรม อย่างไรก็ตามเธอกลับไม่เคยรู้สึกว่าทั้งสองเป็นพ่อแม่ของตนเอง และไม่เคยเรียกโยริโกะว่าแม่

เนื่องจากเธอรับรู้ว่าโยริโกะได้รับค่าเลี้ยงดูเธอมากจากรัฐบาล และคิดว่าทั้งสองรับเลี้ยงเธอมาแค่เพราะอยากได้เงินเท่านั้น อันนะกลายเป็นเด็กเก็บตัว ไม่พูดจากับใคร และนั้นเองทำให้ทั้งสองเป็นห่วงอันนะอย่างมาก จนวันหนึ่ง ขณะที่อันนะอยู่ที่โรงเรียน

โรคหืดของเธอกำเริบทำให้เธอต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล โยริโกะจึงมีความคิดให้อันนะไปอาศัยอยู่ในชนบทแถบเมืองคุชิโระและเนะมุโระ ซึ่งอากาศดีเป็นเวลาซักพักเพื่อที่จะให้อาการของเธอดีขึ้นในช่วงหยุดฤดูร้อน อันนะจึงได้ไปอาศัยกับสองสามีภรรยาโออิวะ ซึ่งเป็นญาติของโยริโกะ

หมู่บ้านที่เธอย้ายเข้าไปอยู่ใหม่นั้นเป็นหมู่บ้านติดทะเล ซึ่งเธอพบว่าริมชายฝั่งของอีกฟาก มีคฤหาสน์ร้างสถาปัตยกรรมตะวันตกหลังหนึ่งตั้งอยู่ ด้วยความรู้สึกคุ้นเคยเธอจึงเข้าไปสำรวจ

เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านเธอจึงถามเกี่ยวกับคฤหาสน์หลังนั้นและได้รับคำตอบว่าเมื่อนานมาแล้วมันเป็นคฤหาสน์ที่เจ้าของชาวต่างประเทศจะมาอาศัยอยู่เป็นพักๆ และตั้งแต่คืนนั้น เธอก็ฝันถึงคฤหาสน์หลังนั้นมาตลอด ซึ่งในฝันเธอเห็นเด็กสาวชาวต่างประเทศผมสีทองอยู่ในคฤหาสน์หลังนั้นด้วย

 

ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์:


ดูหนังฟรี24.com When Marnie was there ที่ได้รับการบอกกล่าวว่าเป็นผลงาน “สั่งลา” ของสตูดิโอจิบลิ อาจจะเป็นการ “ลาพักร้อน” หรือ “ลาถาวร” ก็ยากจะรู้ได้ แต่ที่แน่ๆ When Marnie was there หรือ “ฝันของฉันต้องมีเธอ” นั้น ยังคงตอกย้ำเอกลักษณ์ลายเซ็นของจิบลิในแง่ที่ใช้ตัวละครสุภาพสตรีเป็นตัวเด่นของเรื่อง และที่พิเศษยิ่งขึ้นคือสตรีในเรื่องนี้ดูจะมีความคืบหน้าและก้าวล้ำกว่าสตรีทุกคนที่เคยมีมาในหนังของจิบลิ

เพราะท่ามกลางความเข้มแข็งแต่อ่อนไหว ความเจ็บปวดและงดงาม ยังมีรูปรอยของความรักบางแบบซึ่งพ้นไปจากความรักที่เคยมีมาในหนังของจิบลิทุกเรื่อง หรือจริงๆ มันก็คือภาพสะท้อนแห่งความเปลี่ยนแปลงและเป็นไปในโลกความเป็นจริงที่ความรักไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียง “ชายกับหญิง” อีกต่อไป

ด้วยรูปแบบตัวละครที่ไม่ต่างจากเดิม งานชิ้นนี้ยังคงให้บทบาทแก่ตัวละครหญิงวัยรุ่นวัยเรียนเป็นตัวนำของเรื่อง “อันนะ” เด็กสาววัยมัธยมที่มีปัญหาสุขภาพคือเป็นโรคหอบหืด และด้วยเหตุนั้น เธอจึงต้องเดินทางไปอาศัยอยู่กับป้าลุงที่ต่างจังหวัดเป็นการชั่วคราวตามคำแนะนำของหมอที่เชื่อว่าอากาศดีๆ ในชนบทจะช่วยให้โรคหอบหืดของเธอทุเลาเบาบางลงได้บ้าง อย่างไรก็ตาม เมื่อไปอยู่ที่นั่นแล้ว ก็เกิดมีประสบการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นกับเธอ และนำไปสู่การคลี่คลายปมบางอย่างซึ่งฝังแน่นอยู่ในใจของอันนะมาเนิ่นนาน

ผลงานชิ้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวรรณกรรมเยาวชนชื่อเดียวกัน ผู้เขียนคือ Joan G. Robinson และเป็น 1 ใน 50 หนังสือแนะนำของฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้ก่อตั้งจิบลิด้วย ผู้กำกับคือ “ฮิโรมาสะ โยเนะบายาชิ” (จาก The Borrower Arrietty) ตั้งแต่ต้นเรื่อง หนังก็วาดภาพให้อันนะดูเหมือนเป็นคนนอก ผ่านคำรำพึงกับตัวเองทำนองว่า ถ้ามีวงกลมอยู่วงหนึ่ง

เธอก็คือคนที่อยู่นอกวงกลมนั้น อันนะเป็นเด็กกำพร้า หลังจากสูญเสียพ่อเเม่ในอุบัติเหตุ เธอก็ถูกญาติๆ เกี่ยงกันรับดูแล จนท้ายที่สุด ก็ได้รับการดูแลจาก “โยริโกะ” แม่บุญธรรมของเธอ ซึ่งอันนะเชื่อมาตลอดว่า สาเหตุที่นางรับเลี้ยงเธอ ก็เพราะได้รับค่าตอบแทน นี่จึงทำให้อันนะรู้สึกเกลียดตัวเอง ที่เกิดมาไม่มีใครต้องการอย่างบริสุทธิ์ใจ

ในชนบทนั้น อันนะได้พบกับเรื่องเล่าข่าวลือเกี่ยวกับผีในบ้านร้างที่เคยเป็นบ้านพักของชาวต่างชาติเมื่อสิบกว่าปีก่อน พร้อมกับการปรากฏตัวของ “มาร์นี่” เด็กหญิงผมสีบลอนด์ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกับเด็กผู้หญิงในฝันของอันนะ เรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจึงเริ่มต้นขึ้นและถือเป็นปฐมบทแห่งการเปลี่ยนแปลงที่จะเปลี่ยนความคิดและชีวิตของอันนะไปแบบไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม

มันเป็นเรื่องราวที่งดงามและแพรวพรายไปด้วยภาพจินตนาการฟุ้งฝัน ดูมีความสมจริงแบบปนความมหัศจรรย์ตามแบบฉบับของแอนิเมชั่นจากสตูดิโอจิบลิ ขณะที่แก่นของเรื่องเกี่ยวเนื่องกับการคลี่คลายภาวะทางใจของตัวละครอย่างค่อยเป็นค่อยไปและมีการคลี่คลายเติบโตในท้ายที่สุด แต่เรื่องราวระหว่างทาง กลับเฉิดฉายในนามของความรัก ถ้าไม่นับการปรากฏตัวขึ้นมาของสาวน้อยผมบลอนด์ที่ชื่อว่า “มาร์นี่” ก่อนหน้านี้ก็อย่างที่บอกว่า อันนะนั้นรู้สึกเหมือนตนเองเป็นคนนอกมาโดยตลอด “วงกลม” ที่ว่านั้น อาจไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่ ไม่เหมือนใคร

อีกทั้งยังแปลกแยกต่อผู้เลี้ยงดูของตนเอง (โยริโกะ) แต่วงกลมนั้นอาจหมายถึงอะไรอย่างอื่นๆ ได้อีกด้วย ฉากเล็กๆ ฉากหนึ่งในชนบทตอนที่อันนะไปงานเทศกาล แล้วเด็กหญิงในชุมชนซักไซ้เกี่ยวกับเธอว่ามาจากไหน เมื่อเธอตอบว่ามาจากโตเกียว เด็กหญิงเหล่านั้นก็แสดงท่าทีตื่นเต้นพร้อมกับคำพูดทำนองว่า ที่โตเกียวคงมีผู้ชายหล่อๆ หน้าตาดีเยอะ แต่อันนะกลับรู้สึกพะอืดพะอมพูดอะไรไม่ออกและวิ่งหนีจากงานเทศกาลนั้น เพื่อไปพบกับคนที่หัวใจเธอบอกให้ไปพบมาร์นี่

คงคล้ายๆ กับความรักที่มิอาจเอ่ยปาก เสน่ห์ของงานชิ้นนี้คือความคลุมเครือ ไม่ชัดเจน และเล่นกับการคาดเดาของคนดูตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายหลังการปรากฏตัวของสาวน้อยผมบลอนด์ เชื่อว่าหลายคนคงจะลุ้นให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอันนะแสดงความแจ่มชัดออกมาว่าเป็นฉันใด แต่จนแล้วจนรอด

หนังจะไม่สนองเราแบบนั้น เราอาจจะพยายามพูดให้สวยหรูได้ว่าเรื่องของอันนะกับมาร์นี่คือมิตรภาพอันงดงาม แต่จริงๆ มันแสดงผ่านหลายฉากว่าคนทั้งคู่ไปไกลกว่านั้น ผมรู้สึกว่าเป็นความชาญฉลาดในการนำเสนออย่างยิ่งของหนังที่ใส่บทพูดให้ทั้งสองคนสัญญากันว่า ขอให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรานี้เป็นความลับ

#ดูหนังฟรี #ดูหนังใหม่2024 #WhenMarnieWasThere #ฝันของฉันต้องมีเธอ

กลับด้านบน

Report this page